แกนนำพระสงฆ์ ยืนยันจะสู้ต่อ ในพม่า

ข้อความจาก พระสงฆ์ U Gambira ที่เป็นแกนนำรูบหนึ่งของ สหพันธ์พระสงฆ์ในพม่า ที่นำการประท้วง เมื่อเดือน กันยายน ที่ผ่านมา ท่านเป็นพระสงฆ์ที่ทหารพม่าต้องการตัวมากที่สุด และตอนนี้พยายามรนรงณ์ ในขณะที่ต้องหลบหนีส้อนดัวอยู่ ข้อความนี้ ถูกเผยแพร่ออกใน Washington Post on November 4, 2007

เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ประชาชนในพม่า เรื่อมเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เรื่องพวกเค้า ตัดสินใจ ต่อสู้เพื่อสันติภาพ และเสรีภาพ พระสงฆ์ในพม่า ประท้วง อย่างสงบ สำรับนำไปสู่ การเปรี่ยนแปลง ที่คนในประเทศ ต้องทนทุกข์ทรมานมายาวนาน ตอนที่เรากำลังเดินขบวนกัน คนพม่า และ พี่น้องชาติพันธุ์ นับแสน มาเข้าร่วม เรียกร้อง ให้ทหารพม่า เปิดทางให้นำประเทศไปสู่ ประชาธิปไตย ที่ประชาชนต้องการ

ภาพวิดีโอและ อินเตอร์เนต ได้ให้โอกาส ประชาชนโลก เป็นพยาน การโต้ตอบที่โหดร้าย ของ ผู้นำทหารพม่า พลเอก ตานส่วย เขาปล่อยให้ทหาร กระทำโหดเหี้ยมต่อประชาชน ทำให้ถนนในเมือง ย่านกุ้ง และ มารตาเล ต้องนองเลือดของบุคคล บริสุทธิ์

พระสงฆ์ และแม่ชี นับร้อย ถูกทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรงและ จับกุม อีกมากมายที่ถูกฆ่าตาย ผู้เกี่ยวข้องกับศาสนานับพัน สูญหาย วัด ซึ่งเป็นที่เราบูชาก็ ถูกเข้าค้นและ ทำร้าย ทุกๆค่ำมีะนักสืบของทหาร ไล่จับผู้นำการเมือง ผู้นำศาสนา

รัฐบาลทหารนำประเทศพม่าไปสู่ความล้มเหลว ทำให้เศรษกิจของเราพังพินาศ ทำให้เราถูกปิดกั้นจากโลกภายนอก

ประเทศจีน และรัชเซีย พยายามปิดกั้น เพื่อไม่ให้ คณะกรรมการความปลอดภัยสหประชาชาติ นำประเทศพม่าไปสู่การพูดคุยระหว่าง กลุ่มประชาธิปไตร และรัฐบาลทหาร ผู้นำอาเชี่ยนในภูมิภาคของเรา ได้วิจารณ์การกระทำของทหารอย่างรุนแรง

ความพยายามทุกๆผ่าย ต้องเน้น ให้สมาชิกของ คณะกรรมการความปลอดภัยสหประชาชาติ ต้องทำให้ นายพล พูดคุยตกลงกับประชาชน รวมถึงการปล่อยตัวนักโทษการเมือง และนางอ่องชานซูจี มีอิจสระในการรวมตัว ให้คณะกรรมการสั่งห้ามการค้าอาวุธให้ทหารพม่า
ผู้คนถามอัดตามาว่า ท้อแท้หมดกำลังใจ และการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตรจบลงหรือไม่ คำตอบทั้งสองคำถาม คือ ไม่

ตั้งแต่เดือนสิงหาคม อัดตามา ได้เห็นว่า ยวชนเข้าร่วมในการต่อสู้เรียกร้องเสรีภาพ และได้เห็นตำตรวจ ทหารมากมมายที่ให้ความช่วยเหลือพวกเราบ้างเล็กน้อย การใช้ความรุนแรงเพื่อให้ผู้คนหวาดกลัว นั้นใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป และเราก็ไม่มีความหวาดกลัวอีกต่อไป ซึ่งเราไม่มีอะไรจะเสียอีก

เมื่อวันพุธ ที่ 31 ตุลาคม 2550 ที่ผ่านมา พระสงฆ์กว่า 200 รูป ได้ลูกขึ้นมาประท้วงอีกครั้ง ที่เมืองปะโคกกู่ ด้วยความตั้งใจแสดงให้ทหารรู้ว่า การปัฏิวัต ของผ้าเหลือง Burma's Saffron Revolution ได้เรื่อมขึ้น ในพม่า

เวลานี้ เป็นเวลาที่ทหารเค้าต้องหวาดกลัวกับผลกระทบจากการกระทำของเค้า เรายึดมั่นในการไม่ใช้ความรุนแรง มันเป็นแค่สิ่งเล็กน้อยในการสังเวยชีวิตของอัดตามาและพักพวกในการเดินทางครั้งนี้

  © Blogger templates Psi by Ourblogtemplates.com 2008

Back to TOP